ปิดช่องโหว่ด้านความมั่นคงปลอดภัยและปกป้องการรับส่งข้อมูลของคุณได้แบบ 100% โดย Cloudflare

ความมั่นคงปลอดภัย (Security) ในโลกดิจิทัลถือเป็นที่ทุกธุรกิจทุกอุตสาหกรรมต้องพบเจอ การปกป้องระบบต่าง ๆ ที่ใช้งานอยู่รวมทั้งเรื่องการรับส่งข้อมูลระหว่างกันให้มีความปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้นั้นคือสิ่งที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องพิจารณา ซึ่งทุกวันนี้รูปแบบการโจมตีที่ยังคงพบเจออยู่ตลอดคือ “Denial of Service (DoS)” ที่มุ่งหวังทำให้ระบบของเป้าหมายไม่สามารถให้บริการต่อได้หรือหยุดทำงานลงไป ซึ่งผลเสียจะเกิดขึ้นกับผู้ให้บริการอย่างมหาศาลหากโจมตีได้สำเร็จ รวมทั้งอาจกระทบต่อไปยังจุดอื่นเป็นทอด ๆ ได้ด้วย

เพื่อให้การทำงานและบริการในยุคปัจจุบันที่ซับซ้อนนั้นสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างไหลลื่นทั้งห่วงโซ่อุปทาน Cloudflare ผู้ให้บริการโซลูชัน Content Delivery Network (CDN) และการป้องกันการโจมตี Distributed Denial of Service (DDoS) ชั้นนำของโลก คือหนึ่งในกุญแจสำคัญของอุตสาหกรรมที่พิสูจน์ตัวเองมาเป็นระยะเวลาอย่างยาวนานที่พร้อมสนับสนุนการปิดช่องโหว่เรื่อง Security ในการรับส่งข้อมูลได้อย่างดีที่สุด เรื่องราวของ Cloudflare นั้นเข้าไปช่วยปกป้องการโจมตีได้อย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้

ความท้าทายในเรื่อง Security โลกดิจิทัล

โลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนถึงยุคปัจจุบัน บริการต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เว็บไซต์ที่เกิดขึ้นมากมาย มาจนถึงยุคของแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์สมาร์ตโฟน เรื่อยมาจนถึงยุคของ Cloud และการทำงานแบบ Hybrid Work จนกำเนิดเป็นบริการ Software-as-a-Service (SaaS) มหาศาลที่เรียกใช้งานกันไปมาอย่างซับซ้อน

สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลให้เรื่อง Security จำต้องเร่งวิวัฒนาการขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน พื้นผิวการโจมตี (Attack Surface) แบบใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาในหลากหลายจุด จนส่งผลให้ทุกองค์กรต้องสนใจและใส่ใจในเรื่อง Security กันในทุก ๆ จุดที่เชื่อมโยงข้อมูลกัน ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่หน้าที่ของระดับผู้บริหารระดับ C-Level เพียงเท่านั้นแล้ว หากแต่เป็นเรื่องของคนในองค์กรทุกคน

อย่างไรก็ดี การจัดการเรื่อง Security ภายในองค์กรนั้นยังคงความท้าทายในด้านอื่น ๆ อีก ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย ค่าบริการต่าง ๆ การจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ที่เหมาะสม หรือแม้กระทั่งกระบวนการที่ต้องจัดการเพื่อให้มีรู้เท่าทัน และทำให้มีความปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ภายในงบประมาณที่ประหยัดที่สุด เพื่อทำให้องค์กรยังคงมีรายได้เพียงพอต่อการทำธุรกิจที่อยู่ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นได้ต่อไป

รูปแบบการโจมตีอันหลากหลาย

หลังจากที่โลกเข้าสู่ยุค Digital Transformation รูปแบบภัยคุกคามได้พัฒนาการมาอย่างหลากหลายรูปแบบ หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น เว็บ e-Commerce ที่ให้บริการนั้นมีโอกาสถูกโจมตีได้ในทุกช่องกรอกข้อมูล อาทิ การโจมตีด้วย SQL Injection, Cross-Site Scripting หรือ Password Guessing หรือแม้แต่การทำ Social Engineering ที่มีการสร้างเว็บไซต์ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อและขโมยข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โจมตีในขั้นตอนต่อไปที่มีความรุนแรงมากขึ้น

สิ่งที่เกิดขึ้นได้การสร้างบริการใด ๆ บนโลกดิจิทัลนั้นต้องมีความทนทานต่อภัยคุกคามได้ในแทบทุกรูปแบบ เว็บไซต์ที่เห็นและให้บริการกันในปัจจุบันนั้นจึงมีความซับซ้อนมากกว่าที่คนทั่วไปมองเห็น เพราะนอกจากทุกช่องกรอกข้อมูลที่ต้องมีการป้องกันการโจมตีในรูปแบบต่าง ๆ ไว้แล้ว ยังมีระบบส่วนอื่น ๆ ที่อยู่เบื้องหลัง (Backend) ที่มีการเชื่อมโยงกันผ่าน Application Programming Interface (API) ด้วย  ซึ่งคุณณัฐพันธ์ เรืองรังษีรัตน์ Regional Account Manager แห่ง Cloudflare เผยข้อมูลชัดเจนว่าปัจจุบันการรับส่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ตได้เป็นรูปแบบ API ไปแล้วถึง 49.3% 

เหตุนี้เอง “OWASP” องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ให้ความรู้ เครื่องมือ และอื่น ๆ อีกมากมายในเรื่อง Security อย่างต่อเนื่อง จึงได้มีการจัดลำดับความเสี่ยงในด้าน Security บนเว็บหรือ OWASP Top 10 Web Application Security Risks รวมทั้งในส่วนของ API หรือ OWASP Top 10 API Security ก็มีจัดลำดับไว้แล้วด้วยเช่นกัน  เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกองค์กรสามารถมาเรียนรู้และปิดช่องโหว่ให้ได้มากที่สุด สิ่งนี้ ยิ่งเป็นตัวเน้นย้ำให้เห็นว่าปัจจุบันช่องโหว่และรูปแบบการโจมตีนั้นไม่ได้มีแค่เฉพาะบนเว็บไซต์เท่านั้นแล้ว

DDoS ภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการธุรกิจบนโลกออนไลน์

นอกจากการโจมตีที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว “DDoS” คืออีกรูปแบบการโจมตียอดนิยมในโลกดิจิทัลที่เหนือกว่าลักษณะ DoS ตรงที่เป็นการใช้หลายเครื่องหลายระบบมาโจมตีระบบที่ต้องการพร้อม ๆ กัน เพื่อมุ่งหวังให้ระบบที่ให้บริการไม่สามารถทำงานต่อได้อย่างรวดเร็วหรือล่มเร็วขึ้น อาทิ การยิงคำร้อง (Request) เพื่อขอเข้าใช้งานเว็บไซต์หรือ API ที่ให้บริการพร้อมกันจากหลาย ๆ ที่ 

ปัจจุบันการโจมตี DDoS นั้นมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยการโจมตีที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อช่วงไตรมาสที่ 3 ปีที่ผ่านมานั้นเกิดขึ้นที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ของทาง Minecraft ซึ่งเกิดขึ้นสูงสุดถึง 2.5 Tbps หากแต่โชคดีตรงที่เครื่องดังกล่าวได้ใช้บริการของ Cloudflare อยู่ จึงสามารถรับมือกับการโจมตีครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่น

ล่าสุดเมื่อช่วงกุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมานี้เอง Cloudflare สามารถปกป้องภัยคุกคามการโจมตีแบบ DDoS ทุบสถิติใหม่ได้สำเร็จอีกครั้ง โดยสามารถยังยั้งการโจมตี HTTP DDoS ไปยังลูกค้าที่ใช้บริการกับ Cloudflare อยู่จากผู้ไม่ประสงค์ดีด้วยสถิติใหม่สูงสุดถึง 71 ล้านคำร้องต่อวินาที (Request Per second : RPS) ดังนั้น ชัดเจนเลยว่าถ้าหากไม่มีระบบที่สามารถป้องกันการโจมตีในรูปแบบนี้ที่ดีพอและเหมาะสม ก็จะส่งผลทำให้บริการขององค์กรบนโลกออนไลน์นั้นได้รับผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายได้ในที่สุด 

โซลูชัน Cloudflare เสริมความป้องกันให้องค์กร

Cloudflare มีให้บริการโซลูชันในหลากหลายรูปแบบ เช่น โซลูชันที่ช่วยสนับสนุนการทำงานในรูปแบบใหม่หรือ Hybrid Work โซลูชันการทำให้เว็บไซต์เข้าถึงได้รวดเร็วยิ่งขึ้นหรือ CDN การปกป้องเครือข่ายเน็ตเวิร์กให้มี Security สูงขึ้น ระบบที่ช่วยปกป้องการโจมตีทางไซเบอร์ในหลากหลายรูปแบบ เช่น Web Application Firewall (WAF) รวมไปถึงระบบป้องกันการโจมตีแบบ DDoS ภัยคุกคามยอดนิยมที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน

โซลูชันทั้งหมดของ Cloudflare นั้นได้มัดรวมกันไว้อยู่บน “Cloudflare Platform” ที่มีความพร้อมให้บริการทั่วโลก โดย Cloudflare ได้กระจายฮาร์ดแวร์ไปตามหัวเมืองต่าง ๆ แล้วกว่า 275 เมือง ซึ่งในประเทศไทยได้มีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider : ISP) ที่มีฮาร์ดแวร์ของ Cloudflare วางไว้ถึง 6 แห่ง สิ่งนี้คือหนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญของ Cloudflare ที่สามารถช่วยป้องกันการโจมตีจากจุดที่ใกล้ที่สุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ Cloudflare ยังกล้ารับประกัน Service Level Agreements (SLA) ถึง 100% Uptime อีกด้วย ซึ่งด้วยตัวเองที่ให้บริการอยู่ปัจจุบันในผู้ใช้งานเวอร์ชันฟรีอยู่ถึง 4 ล้านบัญชี และมีลูกค้ากว่า 156,000 เจ้าที่ใช้บริการแบบชำระเงินนั้น บอกได้เลยว่า Cloudflare คือหนึ่งในบริการที่องค์กรแทบทุกแห่งล้วนพิจารณาใช้งาน เพื่อเสริมในเรื่อง Security ให้แข็งแกร่งขึ้น และทำให้การรับส่งข้อมูลมีความมั่นใจมากขึ้นนั่นเอง

ติดต่อ Cloudflare เสริมความมั่นคงปลอดภัยได้ทันที

“Business ทำด้วยความเร็ว แต่ Security ก็ทิ้งไม่ได้เช่นกัน” ดังนั้น แม้ว่าในโลกความเป็นจริงคำว่าป้องกันได้ 100% นั้นอาจจะไม่มีอยู่จริง แต่การปกป้องให้ระบบมี Security ที่ดีที่สุดในระดับที่ใกล้เคียงระดับ 100% นั้นคือสิ่งที่ทุกองค์กรควรพึงปฏิบัติและทุกคนจะต้องร่วมมือกัน ซึ่ง Cloudflare คือหนึ่งในส่วนสำคัญที่จะช่วยเสริมองค์กรในเรื่อง Security ทำให้การรับส่งข้อมูลได้ปลอดภัยมากขึ้น และสามารถจัดการกับภัยคุกคาม DDoS ยอดนิยมได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร้รอยต่อ (Seamless) อย่างมั่นใจ

สำหรับผู้ที่สนใจเซสชัน “ปิดช่องโหว่ด้านความมั่นคงปลอดภัยและปกป้องการรับส่งข้อมูลของคุณได้แบบ 100%” บรรยายโดยคุณณัฐพันธ์ เรืองรังษีรัตน์ Regional Account Manager แห่ง Cloudflare จากงาน Thailand National Cyber Week 2023 สามารถฟังย้อนหลังได้ที่นี่